การขับเคี่ยวชิงแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2023/2024 ดูถ้าจะกลายเป็นศึกระหว่างแชมป์เก่า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” กับอาร์เซน่อล หลังจากที่ลิเวอร์พูลพลาดท่าทำแต้มหล่นเป็นเกมที่สองติดต่อกันและดูจะหมดโมเมนตัมลุ้นแชมป์ในปีนี้แล้ว โดยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็สามารถทำคะแนนกดดันอาร์เซน่อลเข้ามาได้อีกครั้งด้วยการบุกไปเอาชนะน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ถึงสนามซิตี้ กราวนด์ ด้วยสกอร์ 2-0 จากประตูของโจซิป กวาร์ดิโอล และการกลับมาของเออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ทำแต้มขึ้นมาเป็น 79 คะแนน ตามหลังอาร์เซน่อลอีกเพียง 1 คะแนนด้วยการลงแข่งขันน้อยกว่า 1 นัดเต็ม ๆ หลังจากจบเกม ก็มีสถิติน่าสนใจมาพร้อมนำเสนอกัน ดังนี้
- เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลงคุมเกมพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 300 ในอาชีพ โดยจาก 300 นัดที่ผ่านมา นับตั้งแต่ฤดูกาล 2016/2017 เป๊ปสามารถพาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าชัยชนะได้ 221 ครั้ง เสมอ 41 ครั้ง และพ่ายแพ้คู่แข่งไปเพียง 38 ครั้ง ยิงประตูได้ 741 ประตู เสียไปเพียง 247 ประตู คว้ารางวัลผู้จัดการยอดเยี่ยมแห่งเดือน 11 ครั้ง รางวัลผู้จัดการยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 4 ครั้ง และแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย
- หลังจากที่ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้มา 32 นัดโดยที่ยิงประตูไม่ได้ โจซิป กวาร์ดิโอลก็เปิดบัญชีอย่างดุเดือด ด้วยการทำประตูไป 3 ครั้งในรอบ 5 เกมที่ผ่านมา
- เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีในการทำประตูได้อีกครั้ง และกลายเป็นนักฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคนที่ห้าที่สามารถยิงประตูทั้งเหย้าและเยือนได้เกิน 10 ประตูเป็นเวลาสองฤดูกาลติดต่อกัน ถัดจาก เธียร์รี่ อองรี (2001/2002 และ 2002/2003) โรบิน ฟาน เพอร์ซี (2011/2012 และ 2012/2013) หลุยส์ ซัวเรส (2012/2013 และ 2013/2014) และแฮร์รี เคน (2015/2016, 2016/2017 และ 2017/2018)
- ฟอร์มการเล่นของเควิน เดอ บรอยน์ในนัดนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพของเขาได้อย่างดี เขาทำแอสซิสต์ให้กับทั้งโจซิป กวาร์ดิโอล และ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ทำให้เกมนี้เป็นครั้งที่ 18 ที่เดอ บรอยน์ สามารถทำแอสซิสต์ได้มากกว่า 1 ครั้งในเกมพรีเมียร์ลีก 1 ครั้ง และขึ้นเป็นผู้ถือครองสถิตินี้แต่เพียงผู้เดียว หลังจากที่ทำจำนวนได้เท่าเชส ฟาเบรกาส และไรอัน กิ๊กส์ มาก่อนหน้านี้
- นอกจากนี้ เดอ บรอยน์ยังมีส่วนร่วมกับ 8 จากการยิงประตู 10 ครั้งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกมนี้ แถมยังเป็นการแอสซิสต์ให้กับฮาลันด์เป็นครั้งที่ 11 แล้วนับแต่เริ่มพรีเมียร์ลีกฤดูกาลก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ใครคู่เพื่อนร่วมทีมไหนสามารถทำได้ใกล้เคียงเสียด้วยซ้ำ
- ในการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 4 นัดล่าสุด เควิน เดอ บรอยน์ทำประตูไปได้สามครั้ง แถมมีแอสซิสต์อีกสามครั้ง เรียกได้ว่ากำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดช่วงหนึ่งในอาชีพเลยทีเดียว
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในช่วงฤดูกาลนี้ มีฟอร์มการเล่นนอกบ้านที่ดุดันมาก สามารถเอาชนะเกมเยือนไปได้แล้ว 8 จาก 9 เกมล่าสุด และตลอดฤดูกาล 2023/2024 แมนเชสเตอร์ ซิตี้สามารถเอาชนะเกมเยือนไปได้แล้ว 12 ครั้ง ซึ่งเยอะกว่าจำนวนตลอด 38 นัดของฤดูกาล 2022/2023 ที่ทำได้เพียง 11 ครั้ง
ส่องตารางการแข่งขัน “สองเต็งแชมป์” ช่วงโค้งสุดท้าย
ตอนนี้ อาร์เซน่อลเหลือการแข่งขันน้อยกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 เกม แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้เองก็จะต้องดวลกับทีมใหญ่ 1 ทีม ก็คือท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ซึ่งก็อาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตแฟนบอลอาร์เซน่อลหลายคนที่จะช่วยส่งกำลังใจเชียร์ทีมสีขาวจากตอนเหนือของกรุงลอนดอนทีมนี้ กลับกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้เองก็อาจจะอยากเปลี่ยนไปใส่เสื้อสีแดงเป็นกำลังใจให้คู่ปรับร่วมเมือง เพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะมีโอกาสช่วยยืนยันการคว้าแชมป์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้เหมือนกัน สลับไปสลับมา ตื่นเต้นเร้าใจแบบนี้ ไม่แพ้การลงเล่นคาสิโนออนไลน์บนเว็บไซต์ Happyluke เลยทีเดียว ท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถกดลิ้งค์เพื่อเล่นคาสิโนออนไลน์ได้เลย
ตารางการแข่งขันของทั้งสองทีมในช่วงโค้งสุดท้าย
“อาร์เซน่อล” มีโปรแกรมเปิดบ้านต้อนรับทีมล่างตารางอย่างบอร์นมัธในวันที่ 4 พฤษภาคม ก่อนจะออกไปเยือนคู่ปรับร่วมเมืองของซิตี้ อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในวันที่ 12 พฤษภาคม ก่อนจะปิดฤดูกาลด้วยการเปิดบ้านต้อนรับเอฟเวอร์ตัน ที่ไม่มีอะไรได้หรือเสียแล้วในวันที่ 19 พฤษภาคม เพราะรอดตกชั้นและหมดโอกาสขยับขึ้นสูงกว่านี้
ส่วน “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” มีโปรแกมลงแข่งขัน 4 เกม เริ่มจากการดวลกับวูล์ฟเวอร์แฮมป์ตัน ก่อนจะออกไปเยือนสองนัดติด ๆ โดยเริ่มจากการไปเยือนไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ในวันที่ 11 พฤษภาคม เยือนท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ในวันที่ 14 พฤษภาคม ก่อนจะปิดฤดูกาลด้วยการเล่นในบ้านพบเวสต์แฮม ยูไนเต็ดในวันที่ 19 พฤษภาคม จุดที่น่าสังเกต ก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้จะมีเวลาพักน้อยกว่าอาร์เซน่อลอย่างชัดเจน เพราะจะต้องลงแข่งขันเกมพบท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ในวันที่ 14 พฤษภาคม ในขณะที่อาร์เซน่อลจะได้พักยาว ๆ ถึงวันที่ 19 พฤษภาคมเลยทีเดียว